บันทึกการเดินทาง : ตอน เกิ่นเทอ(ไม่คุ้น แต่คุ้มมาก)นะเธอ
3 วัน 2 คืน 3,000 บาท ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน
เป็นอีกทริปที่คิดว่าจะแอบไป ชิลๆ ไม่รีบร้อน หลบไปพัก วางภาระงาน
ๆ แล้วไปซิล ๆ กัน
เปิดประเด็นชวนเพื่อนเลย ไปเกิ่นเทอกันนะเธอ เพื่อนตอบที่ไหนว่ะ เกิ่นเทอ ไม่เคยได้ยินชื่อเลยง่ะ
เวียดนามเราก็เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกัน555
มาเนื่องจากการเปิดสายการบินเส้นทางใหม่ของหางแดง ในราคาโปร 690
รวมภาษีสนามบินแล้ว ก็จัดสิค่ะ ไปกลับไม่เกิน 2000
รวมค่าโหลดสัมภาระแล้วเผื่อซื้อของฝากของกิน เพื่อนไม่มีปัญหาใด ๆ ก็จัดการจองเลย
ทริปนี้ไม่ได้จองยาวนานมากมายอะไร ก็ทริปนี้ไปกันสามสาว จัดการจองโรงแรมเอาแบบระดับห้าดาว
2 คืน ราคาคนละพันกว่า ๆ คือดีงามมาก
เกิ่นเทอ..นี่มันเมืองอะไร
มีดียังไงต้องไป
เกิ่นเทอ
ชื่อนี้ไม่คุ้นไม่ค่อยมีคนรู้จัก หลังจากที่จองตั๋วโปรก็หาข้อมูลอ่าน เท่าที่หาได้
ในหนังสือเที่ยวเที่ยวไม่มี มีในหนังสือเรื่องราวเกี่ยวกับอาเซียน
ประมาณแหล่งการค้า เจอรีวิวเพียงไม่กี่ริวิว เกิ่นเทอ อยู่ห่างจากเมืองหลวงโฮจิมินห์ไปทางทิศใต้ราว
170 กิโลเมตร
เป็นเมืองใหญ่อันดับ4 ของประเทศเวียดนาม ติดกับไม่น้ำโขง
เป็นเมืองที่มีความอุดมสมบูรณ์
ยังมีตลาดน้ำที่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่
ยังมีการค้าขายสินค้าทางการเกษตรกันบนเรือแบบเดิม ๆ
เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเวียดนามที่ใช้ชีวิตริมน้ำ
วันเดินทางที่รู้สึกคุ้มค่า เราเดินทางวันที่12 กันยายน 2562 เวลาประมาณ11.25
เที่ยวบินนี้เป็นไฟท์ที่เปิดเส้นทางใหม่ ๆ ผู้โดยสารจะมีน้อยมาก ประมาณ30 คน
เราไปกันสามคน แอร์สาวสวย มาแจ้งว่าพี่ๆมากัน3คนใช่มั้ยคะ
รบกวนมานั่งที่เก้าอี้แดงด้านหน้านะคะ คือดีย์ไปอิ๊กก เรียกได้ว่าประสบการณ์ที่ดี
เราถึงประเทศเวียดนาม สนามบินเกิ่นเทอ เวลาประมาณบ่ายโมงกว่า
ถึงสนามบินรู้สึกวังเวงมาก ที่นี่ที่ไหน เงียบ..ไม่มีผู้คนเยอะ ๆ
เหมือนสนามบินนานาชาติอื่น ๆ ที่เคยไป
รู้สึกหิวเพราะตั้งใจมาหาอะไรกินมื้อกลางวันที่นี่ แต่ปรากฏว่าไม่มีอะไรขายเลยอ่ะ
ไม่มีที่แลกเงิน โอ้ย..ยังไง ทำไงดี ในหัวงงไปหมด ไม่มีตังค์ก็ไปไหนไม่ได้เลย
จะเรียกแทกซี่ที่พักก็ไม่มีเงินดง (VND) เลย
เหมือนเทวดาฟ้ามาโปรด คือมีทหารเวียดนามคนหนึ่งคงจะมองพวกเราอยู่
แบบหน้าตาคงจะดูตื่น ๆ เดินเข้ามาถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่า คนไทยใช่มั้ย พูดแบบไม่ชัดแต่รู้ถึงความตั้งใจช่วยเหลือ
สรุปคือ เขาบอกว่าเขาเป็นทหารเวียดนาม มาเรียนฝึกอยู่แถวดอนเมือง กลับไปเยี่ยมบ้าน
เราเลยบอกว่าเราจะไปที่พัก แต่เราไม่มีเงินดง (VND) เลย
เขาเลยแสดงบัตรให้ดูว่าเชื่อใจเขามั้ย เขาจะไปแลกให้ เขาเอาบัตรประจำตัวทหารให้เราไว้เลย คงจะอยากช่วยจรริงๆ เราฝากเขาไปแลก 200 USD ได้มาเยอะอยู่ น่าจะเป็นเงินเขาด้วย เพราะเราไม่มีเลย
หลังจากนั้นเขาก็เอาเงิน (VND) มาให้ เราก็ขอบคุณเขา
และเขาก็พาไปส่งขึ้นรถแท็กซี่และบอกกับคนขับแทกซี่ว่าให้ส่งที่โรงแรมที่เราจองไว้ ค่าแทกซี่คิดเป็นเงินไทยประมาณ
180 กว่าบาท และบวกค่าชาร์จของสนามบินอีกประมาณ 10.000 VND
Ong Temple
+
มาเริ่มทริปกันที่แรก เดินออกจากที่พัก
เช็คอินที่แรกเลยก็คือ ศาลเจ้ากลางใจเมืองเกิ่นเทอ มีชื่อว่า Ong Temple
หันหน้าไปทางแม่น้ำขนาดใหญ่
ที่นี่มีสถาปัตยกรรมแบบจีน ด้านในตกแต่งสวยงาม
ประดับด้วยธูปเกลียว ที่จุดตลอดเวลา
และที่อ่านมาที่นี่มีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องการค้าขาย พ่อค้าที่มาทำการค้าขายที่เมืองนี้จะต้องมาขอพรที่นี่
จึงตัดสินใจขอพรทันทีไม่รีรอ
ตั้งจิตให้มั่นแสดงความปรารถนาและบอกว่าถ้าได้ตามที่พูดจะขอกลับมาไหว้ที่นี่อีกครั้ง
เฝอล๊อบเตอร์
หลังจากออกจากไหว้พระขอพรเรียบร้อยไม่รีรอ
เราออกเดินทางโดยใช้กูเกิลแม็บเพื่อไปยังร้านเฝอล๊อบเตอร์ที่ตั้งใจไปลอง
แท็กซี่พาเราไปยังจุดหมายไม่ไกลจากโรงแรมมาก แต่ก็เดินไม่ไหวหรอก
ร้านในรีวิวเหมือนกัน ชื่อร้าน TUNG BUNG KHAI TRUONG
สั่งเฝอปู เฝอล๊อบเตอร์ หาข้อมูลมาแล้วราคาถูก คิดจากป้ายที่ติดไว้ เฝอปู
ชามละ 70.000 VND ตีเป็นเงินบาทประมาณ 80 กว่าบาทไทย
เฝอล๊อบเตอร์ ชามละ 100.000 VND ประมาณ 120 บาทไทย ชามใหญ่มาก
อร่อยและคุ้มมากกก (ก.ไก่ล้านตัว) สมกับการรอคอย สมคำร่ำลือ
ปล.อย่าลืม...มาที่เกิ่นเทอ ไม่ได้กินเฝอปู เรียกว่ามาไม่ถึง นะจ๊ะ
หลังจากนั้นก็เรียกแทกซี่กลับมาที่พัก
#อร่อยจนต้องบอกต่อ
อนุสาวรีย์ลุงโฮ . Ho Chi Minh Monument
ที่นี่เป็นสวนสาธารณะที่มีผู้คนมาเพื่อพักผ่อน ซึ่งมากันเป็นครอบครัว ทั้งหนุ่มสาวนัดพบกัน
และเราก็เดินเล่นไปเรื่อย ๆ
และเดินไปชมตลาดกลางคืน มีร้านขายของกิน พวกน้ำปั่น
และเดินไปดูของที่ระลึกที่ตลาดกลางคืน
และนัดเรือให้มารับไปทัวร์ตลาดน้ำเหมาส่วนตัวเลยจ้า คิดเป็นเงินไทยราว 450 บาท หลังจากนั้นก็รีบกลับมานอน
เพื่อเตรียมตัวออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดพรุ่งนี้
Ninh Kieu Riverside Hotel
เรา 3 คน จองที่พักที่นี่ 1
ห้อง 2คืน ผ่าน App Agoda ราคา3200
เป็นโรงแรมระดับห้าดาวที่ถือว่าราคาถูกมาก ตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้ำโขง
มีทิวทัศน์ที่สวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่นี่ติดกับ Ninh
Kieu quay and Pedestrian Bridge ช่วงเย็นจะมีวัยรุ่น คนแก่
เด็ก และนิยมมากันเป็นครอบครัวมาพักผ่อนดูไฟ คือมากันเยอะมาก ๆ มากจริง ๆ
เรียกว่าแน่นสะพาน สะพานประดับไฟสวยงาม และมีร้านอาหารบนเรือ
ที่นี่น่าจะเป็นไฮไลท์อันดับต้น ๆ ของเกิ่นเทอ คือ ตลาดน้ำไคราง
ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม เราเหมาเรือ1ลำเพื่อชมตลาดน้ำ
เรือรับจากหน้าโรงแรมใช้เครื่องยนต์ เราออกจากที่พักประมาณตีห้า
ออกมาไม่เจอคนที่นัดไว้เลยเคว้งคว้างทำไง เดินมาอีกมาคนมารอบอกว่าจะพาไป
ใช่หรือเปล่าเนี่ย พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่สื่อสารใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
พาล่องเรือไปเรียกว่าไกลมาก ก็ค่อย ๆ สว่างและเห็นพระอาทิตย์ขึ้น
ตลาดมีการค้าขายบนเรือ เช่น เรือขายแตงโม ฟักทอง จะเต็มเรือมาเลย
และมีผลไม้หรือผักชนิดนั้น ๆ แขวนไว้กับเสาบนเรือเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่าขายอะไร
ชมวิถีชีวิตชาวบ้าน และพอมีนักท่องเที่ยวให้เห็นบ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่
น่าจะไม่ค่อยมีใครรู้จักเท่าไหร่ มีของขายในเรือ เช่น เฝอ บาแกร็ต ขนมครก กาแฟ
ผลไม้ กาแฟอร่อยมากที่สำคัญถูกมากๆ ด้วย
น่าจะใช้เวลา2 ชั่วโมง กลับมาถึงท่าน้ำ ทีแรกก่อนไปต่อราคา
พอได้ไปแล้วโอ้ยไกลไม่เสียดายเลยและบริการดีมาก
พอได้ไปแล้วโอ้ยไกลไม่เสียดายเลยและบริการดีมาก
บ้านทำเส้นก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่
Bình Thuy temple
ว้ดนามงา Nam Nha Pagoda เดินข้ามสะพานไปวัดจีนที่ติดริมน้ำ
สถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชาวเกิ่นเทอ
Phat Hoc Pagoda
Phat Hoc Pagoda เป็นวัดที่อยู่ตรงแยกไฟแดง กลางเมืองเกิ่นเทอ มีประมาณ 5 ชั้น ภายในแบ่งเป็นห้อง ๆ มีพระพุทธรูปหลากหลาย ให้กราบสักการะ มีความสวยงามอย่างยิ่ง
Munirensay Temple วัดเขมร กลางใจเมืองเกิ่นเทอ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ Phat Hoc Pagoda
เราจะได้เห็นวัดเขมร จำนวนมากได้ที่เกิ่นเทอ ซึ่งที่นี่อยู่ไม่ไกลจากกรุงพนมเปญมากนัก ทำให้มีผู้คนกัมพูชาอาศัยอยู่จำนวนมาก สามารถเข้าไปกราบไหว้ สักการะบูชา
ในวันที่เราไป ได้พบกับพระรูปหนึ่งถามว่าเรามาจากไหนกัน เราก็บอกว่ามาจากประเทศไทย ท่านก็ได้บอกกับเราว่า เจ้าอาวาสที่นี่ไปเรียนที่เมืองไทยหลายปีนะ จึงพาพวกเราไปกราบ ได้เจอท่านสามารถพูดภาษาไทยได้ นั่นคือ ที่บอกมาที่นี่ยังเจอคนพูดภาษาไทยได้ ท่านบอกไว้ว่ามาคราวหน้า ให้แวะมาหา ท่านบอกดีใจ เพราะไม่ค่อยได้เจอคนไทยมาที่นี่เท่าไหร่ แล้วท่านก็ให้ขนมไหว้พระจันทร์มาคนละชิ้น พวกเราก็ถวายปัจจัยท่านไป
La Dolce Vita Coffee
La Dolce Vita Coffee ร้านกาแฟที่ต้องมาตามรีวิว ที่นี่ตกแต่งสวยงามด้วยโทนสีฟ้า ขาว
เป็นค่าเฟ่น่ารัก ที่ไม่เล็ก มี2ชั้น กาแฟถูกไม่แพง
กลับไปเอากระเป๋าเพื่อเดินทางไปยังสนามบินเกิ่นเทอ
วันนี้ต้องกลับกรุงเทพฯแล้วยังเพลินอยู่เลย
บทสรุปส่งท้าย
การมาเที่ยวครั้งนี้ถือว่าเป็นประสบการณ์การเที่ยวต่างประเทศที่ถูกที่สุดแล้ว
เรียกว่าคุ้มเบอร์แรง มาพูดถึงข้อดี ค่าใช้จ่ายประหยัดมาก ค่าแทกซี่ถูกมาก
บางเที่ยวเราจ่ายประมาณ28 บาท 3 คน อาหารถูกและดีงามมาก กาแฟที่เวียดนามถูกมาก
ๆๆๆๆๆเอาไปเลยเรื่องความคุ้มให้เต็ม10ดาว บางวันกินกาแฟ 4 แก้ว 555 ข้อเสียคือ
ภาษาส่วนใหญ่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ใช้แต่ภาษาเวียดนาม สื่อสารค่อนข้างยาก
แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ผู้คนที่นี่จะลักษณะพูดจาเสียงดัง ๆ คล้ายๆ คนจีน
แต่ก็มีน้ำใจไม่ได้เลวร้ายเกินไป เวียดนามขึ้นชื่อเรื่องการโกง แต่ก็คอยระวังตัว
ก็ไม่ได้มีอะไรที่เกินไป ขอบคุณเพื่อนสาวที่ร่วมทริปด้วยกัน